เจ้าของสวนทิ้งบ้านร้างกลางสวนยาง ขโมยงัดแงะและไฟไหม้
เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันที่ 24 ส.ค.62 นายธนู มณฑาทอง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองประจวบ ได้รับแจ้งจาก นางรัตนา เส้งรอด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ด่านสิงขร ว่าได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีเหตุไฟไหม้บ้านพักไม่มีเลขที่กลางสวนยางพารา เหตุเกิดบริเวณบ้านด่านสิงขร หมู่ 6 ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงพร้อมด้วย ร้อยโท นพพร สนธิวงศ์ หัวหน้าชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชนที่ 1211 และเจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน กองกำลังสุรสีห์ที่ 110 เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 ด่านสิงขร พร้อมเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนจังหวัดประจวบ และ เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองประจวบ (อส.)ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังคามุงด้วยสังกะสี ตั้งอยู่กลาง สวนยางพาราติดกับชายป่าแนวเทือกเขาตะนาวศรี ชายแดนไทย-เมียนมาร์ จากการตรวจสอบ พบมีร่องรอยไฟไหม้บริเวณคานหลังคาบ้าน และบริเวณห้องเก็บของแต่เพลิงได้ดับสนิทหมดแล้ว สันนิษฐานเบื้องต้นอาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบตัวอาคารของบ้านหลังดังกล่าวพบว่าบริเวณสังกะสีมุงหลังคาฝั่งทิศเหนือมีร่องรอยการงัดแงะจนหลังคาเปิดออก สามารถมุดเข้าไปได้ และ ฝ้ามุงหลังคามีรอยทะลุ นอกจากนี้บริเวณหน้าต่างข้างบ้านยังมีร่องรอยถูกงัดแงะอีกจำนวนหลายจุด แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบทรัพย์สิน หรือของมีค่าอื่นๆที่สูญหายได้ เนื่องจากเจ้าของบ้านอยู่กรุงเทพฯ และกำลังจะเดินทางกลับมาตรวจสอบความเสียหายอีกครั้ง โดยทางด้านผู้ใหญ่บ้านได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองวาฬ เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบมาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เนื่องจากมีร่องรอยของการถูกงัดแงะตัวบ้าน และหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้
ด้านนางละไม พิมพ์สว่าง อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลบ้านหลังดังกล่าวเปิดเผยว่า เจ้าของบ้านคือนายมณฑป พาราสินธุ์ ได้ไปอาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และปล่อยบ้านพักหลังดังกล่าวไว้ให้ตนช่วยดูแล โดยขณะเกิดเหตุตนได้อยู่ที่บ้านของตนเอง จึงไม่ทราบว่าเกิดเหตุไฟไหม้ และมาทราบอีกทีเมื่อมีเพื่อนบ้านที่มากรีดยางไปบอกว่าบ้านมีร่องรอยการถูกไฟไหม้ จึงได้เดินทางมาดูพร้อมกับโทรศัพท์ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าของบ้านให้ได้รับทราบ ซึ่งเจ้าของบ้านแจ้งว่ากำลังออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อมาตรวจสอบความเสียหายของบ้านและทรัพย์สินมีค่าว่าสูญหายไปหรือไม่
ขอบคุณภาพ ข่าวจากเอกภพ วงษ์ประเสริฐ(นักข่าวบ้านนอก)จังหวัดประจวบฯ
