“ กรมชลฯ ”
ระดมสูบน้ำเติม ใต้ผืนป่าพรุควนเคร็ง สร้างความชุ่มชื้น คุมไฟลุกโหมได้สำเร็จ
พร้อมเข้าฉีดพ่นน้ำคุมพื้นที่ ไม่ให้ความร้อนระอุปะทุใหม่
เมื่อวันที่ 3 ส.ค.62 นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าล่าสุดสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปากพนังบน สามารถเดินเครื่องสูบน้ำได้ครบในวันนี้ซึ่งจากการส่งน้ำได้วันละ 520,200 ลูกบาศก์เมตร จะเพิ่มปริมาตรขึ้นอีก โดยดึงน้ำเข้าพื้นที่ป่าพรุ จากแม่น้ำปากพนังและคลองชะอวด-แพรกเมือง ต.การะเกด และเขาพระบาท อ.เชียรใหญ่ ส่งเข้าคลองสาขา -คลองซอย 4 สาย สูบเติมลงใต้ผืนป่าพรุอย่างต่อเนื่องเพิ่มความชุ่มชื้นในดิน จะช่วยยับยั้งเปลวไฟลุกโหมขึ้นอีกได้ นอกจากนี้ระดมฉีดพ่นน้ำ เหนือกองเถ้าถ่าน ที่ไฟมอดแล้ว ลดอุณหภูมิสูงใต้ป่าพรุเพิ่มขึ้น เพราะยังมีกระแสลมแรง โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เน้นย้ำให้ส่งน้ำร่วมบูรณาการดับไฟป่าพรุ จนมั่นใจว่า พื้นที่ 20 กม.ที่เกิดไฟป่า ดับมอดสนิทอย่างแท้จริง
นายทองเปลว กล่าวว่าภายในวันนี้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว ส่งไปเพิ่มอีก 7 เครื่องและส่งเครื่องสูบน้ำด้วยระบบไฮโดรโฟร ขนาด 24 นิ้ว มีกำลังสูบสูง 1 เครื่อง รวมทั้งหมดเป็น 18 เครื่องซึ่งติดตั้งเรียบร้อยแล้ว เดินเครื่องสูบแล้ว 16 เครื่อง รถแบ็คโฮขุดร่องเปิดทางน้ำให้เข้าไปใกล้ที่ไฟใหม้มากที่สุด ซี่งก่อนหน้านี้การส่งน้ำมีอุปสรรคเพราะคลองซอยอยู่นอกผืนป่า ติดปัญหาพื้นที่ราษฏร ล่าสุดให้ความร่วมมือ จึงเร่งขุดร่องชักน้ำผ่านพื้นที่อุทยาน และพื้นที่ส.ป.ก. ชักน้ำเข้าไปใกล้ชายป่าได้ ระยะ100เมตร จึงทำให้ควบคุมไฟที่ลุกอยู่เป็นผลสำเร็จ
สำหรับศูนย์เฉพาะกิจดับไฟป่าพรุควนเคร็งซึ่งอำนวยการโดยนายอำเภอเชียรใหญ่ยังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ไม่ให้เปลวเพลิงโหมขึ้นอีก รวมทั้งให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรงดการเผาทุกกรณี อีกทั้งกำลังตรวจสอบสาเหตุว่า ไฟที่ลุกไหม้ในป่าพรุควนเคร็งเขตอำเภอเชียรใหญ่ครั้งนี้เป็นไฟป่าหรือเกิดจากการเผาวัสดุทางการเกษตรเนื่องจากสวนปาล์มน้ำมันที่อยู่ติดชายป่าเกิดไฟไหม้ด้วย จึงทำความเข้าใจแก่ชาวบ้านว่า แม้ไม่มีเจตนาทำให้เกิดไฟป่า แต่หากเผาวัสดุทางการเกษตร โดยเฉพาะในภาวะที่ฝนน้อย อากาศแห้ง และกระแสลมแรงทำให้ลุกลามไปยังป่าได้ รวมทั้งอาจทำให้สวนปาล์มน้ำมัน สวนยางพารา และบ้านเรือนเสียหายได้