ส.ส.ต๊ง ลงพื้นที่กุยบุรี ขานรับเสียงชาวบ้านเร่งแก้ปัญหาช้างป่าและที่ดินทำกิน

ส.ส.ต๊ง ลงพื้นที่กุยบุรี ขานรับเสียงชาวบ้านเร่งแก้ปัญหาช้างป่าและที่ดินทำกิน

 

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมนตรี ปาน้อยนนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 อ.เมืองประจวบฯ อ.กุยบุรี และ อ.สามร้อยยอด จากพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่พบปะชาวบ้านเพื่อรับฟังปัญหาที่ศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน(ศสมช.) ม. 9 บ้านย่านซื่อ ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามคำเชิญของชาวบ้านให้ช่วยเร่งรัดการแก้ปัญหาความเดือดร้อนกรณีช้างป่าบุกรุกที่ทำกินและปัญหาเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่ทำกิน มีนายเงิน คงมั่น รองนายกอบต. หาดขาม เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบกว่า 60 คน ร่วมรับฟังและให้ข้อมูล

นายประเจียด ปานทอง ชาวบ้านหมู่ 7 บ้านรวมไทย ได้ลุกขึ้นชี้แจงปัญหาความเดือดร้อนทั้งเรื่องช้างป่าและเรื่องที่ดินที่ทำกิน หลายปีก่อนนายมนตรี เคยผลักดันงบประมาณติดตั้งรั้วกันช้าง แต่ตอนนั้นส่วนราชการได้นำรั้วเสาเหล็กขนาดเล็กพร้อมขึงแนวเส้นลวดป้อนกระแสไฟฟ้าแรงดันดันต่ำ ซึ่งไม่ตรงตามที่ชาวบ้านต้องการคือ รั้วเสาคอนกรีตฝังดิน มีรูร้อยด้วยเหล็กข้ออ้อยซึ่งจะแข็งแรงกว่า ทั้งนี้ชาวบ้านยังเร่งรัดให้สร้างทางลำลองโดยรอบ 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านพุบอน บ้านย่านซื่อ และบ้านรวมไทย เมื่อเสร็จแล้วจะช่วยให้เจ้าหน้าที่อุทยานชุดผลักดันช้างป่าเข้าถึงพื้นที่ได้เร็วขึ้น และชาวบ้านเองยินดีร่วมมือกับภาครัฐในการจัดเวรยามอาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่าตลอดแนวทางลำลอง โดยขอให้นายมนตรี ในฐานะส.ส.ในพื้นที่เข้ามาช่วยติดตามเร่งรัดการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะเชื่อว่าทำได้แน่


ระหว่างการประชุมนายมนตรี ได้โฟนอินถึง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ในฐานะคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายแพทย์บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและแก้ไขปัญหาช้างป่า เพื่อสอบถามแนวทางการให้ความช่วยเหลือตามกรอบของกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน จากนั้นชาวบ้านได้เชิญนายมนตรี ลงตรวจสอบพื้นที่ๆ เป็นสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน บ้านย่านซื่อ และบ้านรวมไทย ซึ่งได้รับความเสียหายจากการบุกรุกของช้างป่าอย่างรุนแรง


ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายมนตรี เรื่องการสร้างทางลำลองซึ่งชาวบ้านต้องการเป็นสิ่งแรกนั้น ว่าจะช่วยผลักดันเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งนายมนตรี กล่าวว่า ตนให้คณะทำงานตรวจสอบรายละเอียดแล้วพบว่า หากจะสร้างทางลำลองให้ครอบคลุมทั้ง 3 หมู่บ้าน จะต้องทำทางยาวประมาณ 40 กิโลเมตร แบ่งเป็นช่วงที่ 1 รอยต่อบ้านรวมไทย – อ่างพุอ้ายแดง 9,267 เมตร ช่วงที่ 2 อ่างเก็บน้ำพุอ้ายแดง – ฝายคอนกรีต 6,083 เมตร ช่วงที่ 3 บ้านรวมไทย – อ่างเก็บน้ำหุบเฉลา 9,167 เมตร รวม 24,517 เมตร ทั้ง 3 ช่วงนี้เดินสำรวจเสร็จแล้ว ส่วนที่ชาวบ้านขอขยายเพิ่มเติมจากอ่างเก็บน้ำพุอ้ายแดง – บ้านพุบอน 15,483 เมตร ส่วนนี้ต้องเดินสำรวจใหม่ ด้านงบประมาณทราบว่าทางอบต.หาดขาม ตั้งไว้แล้วประมาณ 1.5 ล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมการหาผู้รับเหมาว่าจ้างให้ดำเนินการในปี 2564 นี้เลย แต่คงทำได้เพียงปรับผิวดินทำแนวทางลำลองให้ออกมาก่อน ส่วนงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อทำถนนลูกรังหรือหินคลุกนั้น ตนจะเข้าพบส่วนราชการในจังหวัดเพื่อหารือในส่วนนี้ต่อไป

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา  ประจวบคีรีขันธ์