รมช.ธรรมนัส คิกออฟ “โครงการจิตอาสาฟื้นฟู ดูแลเกษตรกรผู้ประสบภัย” ปลูกพืชเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์สร้างรายได้ในพื้นที่นาหลังน้ำลด
เดินหน้ามอบหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 50 ราย
วันนี้ 16 ตุลาคม 62 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิด “โครงการจิตอาสากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยเหลือ ฟื้นฟู ดูแลเกษตรกรผู้ประสบภัย” ณ หมู่ 11 บ้านศรีบัว ตำบลสร้างถ่อ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมพัฒนาที่ดิน ได้จัด “โครงการจิตอาสากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยเหลือ ฟื้นฟู ดูแลเกษตรกรผู้ประสบภัย” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกหน่วยงานร่วมกันบูรณาการดำเนินการช่วยเหลือ ฟื้นฟู เกษตรกรผู้ประสบภัยหลังน้ำลด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร รวมถึงสร้างการรับรู้การเตรียมการทำการเกษตรตามหลักวิชาการ สนับสนุนส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถกลับมาประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างรวดเร็ว โดยให้การสนับสนุนการปรับปรุงบำรุงดิน และบำบัดน้ำเสีย เพื่อยับยั้งความเสียหายของผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งหลังจากน้ำลดเกษตรกรมีความต้องการปลูกพืชที่สามารถทดแทนข้าว เพื่อสร้างรายได้ให้กับครัวเรือน จึงจัดโครงการปลูกพืชปุ๋ยสดเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกหลังน้ำลดในพื้นที่นาข้าวที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม และเก็บเมล็ดพันธุ์จำหน่ายให้กับกรมพัฒนาที่ดิน ในราคากิโลกรัมละ 23 – 25 บาท เพื่อนำไปสนับสนุนและปรับปรุงดินในพื้นที่อื่นต่อไป
ซึ่งกรมพัฒนาที่ดินสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดให้กับเกษตรกร จำนวน 175 ราย ประกอบด้วย
1) เกษตรกรกลุ่ม PGS จำนวน 30 ราย
2) กลุ่มเกษตรพอเพียง จำนวน 30 ราย
3) กลุ่มผู้เลี้ยงปลาในนาข้าว จำนวน 60 ราย
4) กลุ่มผู้เลี้ยงไหม จำนวน 15 ราย
5) กลุ่มสวนยาง จำนวน 40 ราย รวมเกษตรกร 175 ราย
ครอบคลุมพื้นที่ 2,000 ไร่ รวมทั้งมอบข้าวสาร ให้แก่หมอดินอาสาและเกษตรกร จำนวน 400 ชุด เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยา ผู้ประสบอุทกภัยหลังจากน้ำลด ในโอกาสนี้ รมช.ธรรมนัส ได้เป็นประธานพิธีมอบหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) จำนวน 50 ราย ซึ่งในอำเภอเขื่องในทั้ง 18 ตำบล เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน 13 ตำบล ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 90,000 ไร่ ได้ดำเนินการจัดที่ดินไปแล้ว 53,000 ไร่ เกษตรกรได้รับประโยชน์ 9,251 ราย อีกด้วย
ทั้งนี้จังหวัดอุบลราชธานีเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อนโพดุล และคาจิกิ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2562 และหลังจากพายุสงบลงก็ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีน้ำหนุนจนถึงวันที่ 22 กันยายน 2562 ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักในหลายในพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี ส่วนอำเภอเขื่องใน ได้รับผลกระทบ จำนวน 17 ตำบล 126 หมู่บ้าน ประชาชน 3,559 ครัวเรือน จำนวนประชากร 14,136 คน ซึ่งพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายประกอบด้วย นาข้าว พืชไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น ชุมชน และพื้นที่อื่น ๆ รวม เนื้อที่ 392,878 ไร่ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายลง และหลายพื้นที่กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว
รมช.ธรรมนัส ยังบอกกับพี่น้องประชาชนอีกว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้มอบเมล็ดพันธุ์ข้าวกว่า60,000ตัน เพื่อแจกจ่ายให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้ประสพภัย และในต้นปี63นี้ ทางกระทรวงพลังงานจะมาสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็จะมาส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกหญ้า”เนเปีย”ส่งขายกับโรงไฟฟ้า แถมยังเอาหญ้าเนเปียมาทำเป็นอาหารของสัตว์ในโครงการวัวล้านตัวด้วย ซึ่งจะทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกมากมาย