“อลงกรณ์”เสนอ 5 หลักคิดให้สมาชิกวุฒิสภาพิจารณาโหวตนายกรัฐมนตรี หวังทุกฝ่ายยึดสันติวิธีหลีกเลี่ยงวิกฤติการเมืองซ้ำเติมประเทศ

“อลงกรณ์”เสนอ 5 หลักคิดให้สมาชิกวุฒิสภาพิจารณาโหวตนายกรัฐมนตรี หวังทุกฝ่ายยึดสันติวิธีหลีกเลี่ยงวิกฤติการเมืองซ้ำเติมประเทศ

นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  เขียนเฟสบุ๊คส่วนตัววันนี้(13 ก.ค.)เกี่ยวกับการประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีโดยมีข้อความว่า …บ้านเมืองของเรามาถึงทางแพร่งที่สำคัญในวันนี้ สืบเนื่องจากการเลือกตั้งเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว คือการโหวตเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยโดยรัฐสภา

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคที่ได้รับเสียงเลือกตั้งอันดับ 1 และรวบรวมเสียงในสภาผู้แทนราษฎรรวมตัวเป็นกลุ่ม 8 พรรคการเมืองมีเสียงรวมกันเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรจะได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศหรือไม่ ขึ้นกับการโหวตของสมาขิกรัฐสภาในวันนี้

สมาชิกรัฐสภา 750 ท่านประกอบด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คนและสมาชิกวุฒิสภา 250 คนจะใช้สิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง 1.สนับสนุน 2.ไม่สนับสนุน 3.งดออกเสียง

ผมเคยให้ความเห็นส่วนตัวว่า ในฐานะเป็นอดีต ส.ส.และสมาชิกรัฐสภา 6 สมัยได้เสนอข้อพิจารณาเป็นหลักยึดหลักคิดในการโหวต
1.เคารพผลการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งคือความต้องการของประชาชน
2.ยึดหลักการเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร พรรคที่รวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรมีสิทธิ์และความชอบธรรมที่จะเป็นรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี
3.การออกเสียงลงมติของสมาชิกรัฐสภาเป็นเอกสิทธิ์
4.สมาชิกรัฐสภาเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย เมื่อปวงชนชาวไทยคือประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยใช้สิทธิในการเลือกตั้งโดยตรงไม่ผ่านระบบผู้แทนปวงชนชาวไทยแล้ว ผู้แทนปวงชนชาวไทยพึงเคารพการตัดสินใจของปวงชนชาวไทย
การใช้อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยมี 2 กรณีที่ใช้สิทธิอำนาจโดยตรงไม่ผ่านระบบผู้แทนฯ.คือ การเลือกตั้ง และการออกเสียงประชามติ
5.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคการเมืองมีระบบพรรคที่ต้องปฏิบัติตามมติ ซึ่งเป็นระบบที่ถือปฏิบัติทุกพรรคการเมือง เช่น พรรคประชาธิปัตย์มีมติงดออกเสียง สมาขิกพรรคและผมต้องถือปฏิบัติในทางเดียวกัน ซึ่งต่างจากสมาชิกวุฒิสภาที่ไม่สังกัดพรรค

ความเห็นของผมอยู่บนหลักการประชาธิปไตย ไม่เกี่ยวกับนายพิธาหรือพรรคก้าวไกล แต่เป็นการสนับสนุนหลักการที่ผมได้กล่าวมาข้างต้น  ไม่ว่าการโหวตนายกรัฐมนตรีจะปรากฏผลเป็นประการใด ผมยอมรับเพราะผมเชื่อมั่นในระบบรัฐสภาภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  เพียงหวังว่า สมาชิกวุฒิสภาผู้ทรงเกียรติและเป็นผู้ทรงคุณวุฒิมีความรักชาติศาสนากษัตริย์จะตัดสินใจโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วยความเป็นอิสระไม่อยู่ใต้อาณัติใดๆตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด  ผมเพียงหวังที่จะเห็นการตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งเป็นไปโดยราบรื่นและรวดเร็วตามครรลองประชาธิปไตยประเทศของเราอยู่ในภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจและไม่ควรจะเกิดวิกฤติทางการเมืองมาซ้ำเติมทุกฝ่ายทั้งในและนอกสภารักประเทศชาติไม่น้อยไม่มากไปกว่ากัน อาจมีความเห็นที่แตกต่างกันแต่ไม่ใช่ความแตกแยก พึงเคารพความแตกต่างอย่างสันติวิธี  ประชาธิปไตยไม่สามารถสร้างขึ้นได้ด้วยความเกลียดชัง และประเทศไม่สามารถสร้างขึ้นได้บนซากปรักหักพัง  เรามีบทเรียนของวิกฤติทางการเมืองมาหลายครั้ง สูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อมาหลายครา ขอให้บทเรียนในอดีตเป็นอุทาหรณ์สอนใจเตือนสติทุกท่าน อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกเลย.

อลงกรณ์ พลบุตร
13 กรกฎาคม 2566

You May Have Missed!

1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
“รัฐบาล” เปิดงานKick Off กิจกรรมแสดงพลังทำความดีกลุ่มผู้ต้องขัง เฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษา 6 รอบอย่างยิ่งใหญ่
1 Minute
โรงพยาบาล
ผู้บริหารโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ร่วมแสดงความยินดี เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 22 ปี โรงพยาบาลสิรินธร 
1 Minute
กิจกรรมเพื่อสังคม
‘บิ๊กหยิม’ นำคณะกรรมการและสมาชิก ร่วมโครงการ “เพิ่มแต้มบุญ​ ปันน้ำใจ กับชมรมสายสัมพันธ์ศุลกากร” มอบสิ่งของให้หลายหน่วยงาน​ ที่ประจวบคีรีขันธ์
1 Minute
สังคม
นายกสมาคมสมาชิกรัฐสภาไทย นายอนันตชัย คุณานันทกุลและครอบครัว ตักบารตแจกทานข้าวสารอาหารแห้งแก่ประชาชน ทำบุญวันคล้ายวันเกิดกว่า1,000 ชุด หน้าหมู่บ้านศรีเจริญวิลล่า เทพารักษ์