พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานเปิดการประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอาเซียน ครั้งที่ ๑๖
วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๘.๐๐ นาฬิกา พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานเปิดการประชุม ผู้บัญชาการทหารสูงสุดอาเซียน ครั้งที่ ๑๖ (16th ASEAN Chiefs of Defence Forces Meeting : ACDFM) ณ โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด จำนวน ๑๐ ประเทศ เข้าร่วมการประชุมฯ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และไทย
การประชุมฯ ในครั้งนี้เป็นการหารือ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนในการเสริมสร้างความมั่นคง ภายใต้หัวข้อ “ความร่วมมือด้านความมั่นคงที่ยั่งยืน” (Sustainable Security) เพื่อสร้างความไว้ใจและความมั่นใจ รวมทั้งเสริมสร้างความร่วมมือในการรับมือกับภัยคุมคามทุกรูปแบบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โดยสาระสำคัญของการประชุมฯ ในครั้งนี้ ประกอบด้วย
- การส่งเสริมบทบาทของฝ่ายทหารในการสนับสนุนการบริหารจัดการชายแดน
- การสร้างความร่วมมือในการรับมือกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงในภูมิภาค อาทิ การพัฒนากลไกการประสานและแลกเปลี่ยน ข่าวกรอง
- การบรรจุศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนเข้าเป็นองค์กรระดับรัฐมนตรีของอาเซียนเฉพาะสาขา
- การส่งเสริมบทบาทของฝ่ายทหารในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, unreported and unregulated fishing : IUU) รวมทั้งการเสริมสร้างขีดความสามารถของอาเซียนสู่เวทีโลก โดยเฉพาะในด้านการปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ
นอกจากนี้ยังมีการดำเนินกิจกรรมที่สำคัญ อาทิ
- การฝึกร่วมทางฝ่ายอำนวยการด้านการรักษาสันติภาพ
- การฝึกของคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการก่อการร้าย
- การประชุมไซเบอร์กองทัพอาเซียน ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนความมั่นคงอย่างยั่งยืนในภูมิภาคร่วมกัน ซึ่งที่ประชุมจะได้นำเสนอแถลงการณ์ร่วมให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับรองในระหว่างการประชุม ADMM ที่จะจัดขึ้นในห้วงเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๒ ต่อไป
โดย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพในกลุ่มประเทศอาเซียนที่จะดำเนินต่อไปอย่างเข้มแข็ง อันจะเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จในการสร้างประชาคมอาเซียนให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน อีกทั้งยังถือเป็นเวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพ และขีดความสามารถของกองทัพไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย
รวมถึงเป็นการดำเนินกิจกรรมภายใต้กรอบความร่วมมือทางทหารที่จะสอดรับกับการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน และรัฐบาล ในอันที่จะสร้างความร่วมมือ ร่วมใจของประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมีพลวัต สู่อนาคตที่มีความยั่งยืนในทุกมิติ อันจะนำมาซึ่งความกินดีอยู่ดีและสันติสุขของประชาชนอาเซียน