“เฉลิมพล”ออกโรงหนุน“ทีมอภิวัฒน์สหกรณ์” เต็มสูบ ปลุกสมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศล้างบางอำนาจเก่า “ชสอ.”

“เฉลิมพล”ออกโรงหนุน“ทีมอภิวัฒน์สหกรณ์”

เต็มสูบ ปลุกสมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศล้างบางอำนาจเก่า “ชสอ.”

กรรมการ ชสอ.เปิดไพ่ออกโรงหนุนหนุนทีมเลือดใหม่ “ทีมอภิวัฒน์สหกรณ์” แฉเล่ห์กลใช้ตำแหน่งล่อสมาชิกแลกชนะการเลือกตั้ง พร้อมเรียกร้องสมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศร่วมกันหยุดการผูกขาดอำนาจเก่า สร้างธรรมาภิบาลในการบริหาร ชสอ.และสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์

ดร.เฉลิมพล ดุลสัมพันธ์ อดีตประธานกรรมการ ชสอ.และประธานกรรมการสมาคมสมาพันธ์สหกรณ์ออมทรัพย์ฯในเอเชีย กล่าวว่า การบริหารชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย(ชสอ.) รวมไปถึงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ในช่วง4-5ปีที่ผ่านมาถูกผูกขาดด้วยคนเพียงกลุ่มเดียวทีมเดียวทั้งหมด ทำให้สมาชิกจากทั่วประเทศมีความรู้สึกว่ารูปแบบดังกล่าวไม่ได้เป็นระบบที่ถูกต้องเป็นธรรมและโปร่งใส สมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศจึงได้เรียกร้องที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในการบริหารชสอ.ในมิติใหม่ๆโดยยึดหลักธรรมาภิบาล ดั้งนั้นจึงเป็นที่มาการเสนอตัวของทีมอภิวัฒน์สหกรณ์ในครั้งนี้ ที่ต้องการเข้ามาสร้างจุดเปลี่ยนด้วยการพลิกโฉมใหม่ชสอ.ให้เป็นองค์กรที่ใช้หลักธรรมาภิบาล บริหารภายใต้ความโปร่งใส เป็นธรรมและยึดผลประโยชน์ของสมาชิกเป็นหลักไม่ใช่ผลประโยชน์ของพรรคพวก

ซึ่งสอดคล้องกับความหมายของทีมอภิวัฒน์สหกรณ์ นั่นคือความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้าแต่ต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของความมั่นคง ยั่งยืน และด้วยระบบคุณธรรม หรือธรรมาภิบาล ซึ่งทีมอภิวัฒน์สหกรณ์ได้มีการร่วมทีมกันของผู้สมัครที่มีคุณภาพจากกลุ่มวิชาชีพสาขาต่างๆ ทั่วประเทศทุกภูมิภาคเพื่อที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง “ชสอ. ทุกวันนี้ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกเป็นระยะว่าการบริหาร ชสอ. มีการใช้ตำแหน่ง ใช้งบประมาณขององค์กรอื่นที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง และมีความรู้สึกว่าเบื่อทีมงานชุดเดิมๆ แต่มีการเปลี่ยนสลับตำแหน่งกันบริหารโดยกลุ่มอำนาจเก่า การเปลี่ยนแปลง ชสอ.ดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ ทุกคนต้องให้ความร่วมมือในการหยุดการผูกขาด หยุดการใช้ตำแหน่ง หยุดการใช้เงินขององค์กรอื่นไปใช้เพื่อการหาเสียงและหยุดใช้ตัวแทนสมาชิกเครือข่ายต่างๆเป็นตัวประกันแลกกับตำแหน่งที่ปรึกษาในอนาคตหลังรับชัยชนะการเลือกตั้ง” ดร.เฉลิมพล กล่าว ดร.เฉลิมพล กล่าวย้ำด้วยว่า ทีมอภิวัฒน์สหกรณ์จะไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงการบริหารชสอ. หากว่าผู้แทนสมาชิกจากทั่วประเทศไม่ให้ความร่วมมือ เข้าคูหาเลือกทีมอภิวัฒน์สหกรณ์เบอร์10-เบอร์17 ยกทีมในวันที่ 30 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะสหกรณ์เล็กๆ จากต่างจังหวัด สหกรณ์ผู้ใช้แรงงานซึ่งไม่ได้รับการเหลียวแลมานานแล้ว ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการหาเสียง ถ้าหากว่าท่านคิดว่าควรที่จะต้องหยุด และก็หยุดความเบื่อตรงนี้ได้ก็ต้องช่วยกันเปลี่ยน โดยการเลือกทีมใหม่ที่มีความมั่นคง มีความยั่งยืน ก้าวหน้าด้วยระบบคุณธรรม หรือธรรมาภิบาลเข้าไปแทน

ด้านนายสามัคคี เดชกล้า ผู้นำทีมกลุ่มอภิวัฒน์สหกรณ์ ผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งกรรมการชุดใหม่ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย(ชสอ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาการบริหารงานในชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย(ชสอ.)ไม่เป็นมืออาชีพมากพอและมีหลายปัญหาที่มักหมกกำลังรอการแก้ไข อาทิ ปัจจุบันชสอ.มีสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศจำนวนกว่า 1,000แห่งแต่กลับมีสมาชิกที่กู้เงินหรือทำนิติกรรมกับชสอ.แค่ประมาณ 300 สหกรณ์เท่านั้น นั่นแสดงให้เห็นว่าชสอ.ยังไม่ได้รับการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงินและธุรกิจการเงินของขบวนการสหกรณ์ตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง

ดังนั้น ทีมอภิวัฒน์สหกรณ์ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงิน การบริหารสหกรณ์หลายสาขาอาชีพจึงได้ได้อาสาเพื่อขอเข้ามายกเครื่องการบริหารชสอ.ให้เป็นองค์กรที่มุ่งรักษาผลประโยชน์ร่วมกันของสหกรณ์สมาชิกเป็นอย่างแท้จริง อาทิ จัดหาหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้มีความหลากหลายให้เหมาะสมกับประเภทหรือระดับของสหกรณ์ รวมทั้งลดลงทุนที่มีความเสี่ยงกับสมาชิก เช่น การลงทุนอัตราสารทุนตราสารหนี้ แล้วหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนและบริการที่เกี่ยวกับสมาชิก ให้มากขึ้น รวมทั้งร่วมมือกับสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยในการจัดหลักสูตรเกี่ยวกับการพัฒนาสหกรณ์ หลักการสหกรณ์ อุดมการณ์สหกรณ์ให้มีความหลากหลายเพื่อเสริมเขี้ยวเล็บและความรู้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ไทยให้เทียบเท่าสากลมากยิ่งขึ้น “หากทีมอภิวัฒน์ได้รับโอกาสในการเข้ามาบริหารชสอ. เราให้สัญญาว่าจะบริหารจัดการชสอ.ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตโปร่งใสให้มีภาพลักษณ์ที่ดี และเป็นที่ยอมรับต่อสังคมแต่ทั้งนี้คือการร่วมกันรณรงค์การเลือกตั้งครั้งนี้ให้มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส่ เพื่อให้เราได้มีโอกาสเข้าไปเปลี่ยนแปลงชสอ.เป็นผู้นำในการบริหารองค์กรภายใต้หลักธรรมาภิบาลระดับชาติในอนาคต” นายสามัคคี กล่าว