เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศคำสั่งกรมวิชาการเกษตร เรื่อง การแจ้งการครอบครองและการส่งมอบสารเคมี 3 ชนิดที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติยกเลิกใช้ โดยผู้ที่ครอบครองต้องแจ้งกรมวิชาการเกษตรภายใน 15 วันหลังจากประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 จากนั้นต้องส่งมอบภายใน 15 วันเพื่อทำลาย

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศคำสั่งกรมวิชาการเกษตร

เรื่อง การแจ้งการครอบครองและการส่งมอบสารเคมี 3 ชนิดที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติยกเลิกใช้

โดยผู้ที่ครอบครองต้องแจ้งกรมวิชาการเกษตรภายใน 15 วันหลังจากประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม

มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 จากนั้นต้องส่งมอบภายใน 15 วันเพื่อทำลาย

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า คำสั่งกรมวิชาการเกษตร เรื่อง การดำเนินการกับวัตถุอันตราย ชนิดที่ 4 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 คำสั่งดังกล่าวลงนามโดย น.ส. เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร โดยในคำสั่งนั้น มีรายละเอียดในข้อ 1 ระบุถึงวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ประกอบด้วย กลุ่มไกลโฟเซตได้แก่ เซสควิโซเดียม ไกลโฟเซต โซเดียม ไกลโฟเซต ไดแอมโมเนียม ไกลโฟเซต ไตรมีเซียม ไกลโฟเซต โพแทสเซียม ไกลโฟเซต โมโนเอทิลแอมโมเนียม ไกลโฟเซต และโมโนแอมโมเนียม ไกลโฟเซต กลุ่มคลอร์ไพริฟอสได้แก่ ไอโซโพรพิลแอมโมเนียม คลอร์ไพริฟอส และคลอร์ไพริฟอส-เมทิล ส่วนกลุ่มพาราควอตได้แก่ พาราควอตคลอไรด์และพาราควอตไดคลอไรด์ ส่วนข้อ 2 กำหนดให้ผู้ครอบครองต้องแจ้งปริมาณที่มีไว้ในครอบครองภายใน 15 วัน นับแต่ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดให้วัตถุอันตรายดังกล่าวเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 มีผลบังคับใช้ โดยผู้ครอบครองที่อยู่ในกรุงเทพมหานครแจ้งได้ที่ สำนักงานควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ส่วนภูมิภาคแจ้งได้ที่สำนักงานวิจัยและพัฒนาการเกษตร (สวพ.) 8 เขตในจังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น อุบลราชธานี ชัยนาท จันทบุรี สุราษฎร์ธานี และสงขลา และข้อ 3 ต้องส่งมอบแก่หน่วยงานที่กำหนดหลังแจ้งการครอบครองภายใน 15 วัน

 

น.ส. มนัญญากล่าวว่า เหลือเวลาเพียง 13 วันที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะลงนามในประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิดตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย ดังนั้นเพื่อให้ผู้ประกอบการ ร้านจำหน่าย และเกษตรกรที่ครอบครอง 3 สารทราบวิธีปฏิบัติอย่างถูกต้องจึงจะประชุมสารวัตรเกษตรและอาสาสมัครสารวัตรเกษตรทั่วประเทศในวันที่ ในวันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 10.00 นาฬิกาเพื่อสร้างความเข้าใจเรื่อง ข้อควรปฏิบัติหลังการยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิด โดยก่อนวันที่ 1 ธันวาคมต้องไปให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการ ร้านจำหน่ายสารเคมีทางการเกษตรให้ส่งคืนบริษัท ที่เป็นห่วงที่สุดคือ เกษตรกรซึ่งไม่ต้องการให้ถูกจับกุมหรือปรับเนื่องจากกระทำผิดกฎหมาย แม้จะโดยประมาทก็มีโทษปรับสูงไม่เกิน 800,000 บาท หากจงใจฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

น.ส. มนัญญากล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรมวิชาการเกษตร โดยสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร (สคว.) ได้ให้ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร (สวพ.) 8 เขตทั่วประเทศแจ้งสตอกล่าสุดของสารพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอสภายในพื้นที่ส่งให้สคว. มาเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งให้จัดทำแผนการรับแจ้งและเก็บรวบรวมเพื่อจะนำเสนอคณะทำงานของกระทรวงฯ ในการกำหนดงบประมาณต่อไป สำหรับค่าทำลายสารเคมีที่เป็นวัตถุอันตรายเป็นความรับผิดชอบของผู้ครอบครอง ตามพ.ร.บ. วัตถุอันตราย มาตรา 52 วรรคท้าย โดยหลังจากประกาศยกเลิก 3 สารมีผลบังคับใช้ กรมวิชาการเกษตรต้องดำเนินการเพื่อไม่ให้มีการนำเข้า ส่งออก ผลิต นำผ่าน และครอบครองอย่างเข้มงวด