“กษ.สรุป22พ.ย.นี้  มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร มีผลกระทบจากยกเลิกใช้3สารพิษ” 22พ.ย.นี้

“กษ.สรุป22พ.ย.นี้  มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร มีผลกระทบจากยกเลิกใช้3สารพิษ” 22พ.ย.นี้

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เมื่อวันที่ 14 พ.ย.62  นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การประชุมคณะทำงานพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด โดยคณะทำงานได้รวบรวมและประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากทุกภาคส่วน เพื่อวางมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างครอบคลุม โดยในระยะเร่งด่วน ที่อาจจะต้องชดเชยเพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกรที่จะได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากสารที่จะใช้ทดแทน ระยะถัดมาเป็นการใช้เครื่องจักรเทคโนโลยีเข้ามาทดแทนเพื่อกำจัดวัชพืช ขณะที่ระยะยาวมีแนวคิดที่จะมีการส่งเสริมในเรื่องการนำจุลินทรีย์ชีวภัณฑ์มาใช้ในการกำจัดวัชพืชมาทดแทนสารเคมี เพราะปัจจุบันสารชีวภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตร 73 รายการ มีเพียงสารกำจัดโรคพืช และศัตรูพืช อย่างแมลง ไม่มีสารกำจัดวัชพืช ซึ่งหากยกเลิกใช้สารเคมีจะต้องนำเรื่องชีวภัณฑ์มาเป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรเนื่องจากกระทรวงเกษตรฯกำลังส่งเสริมเรื่องเกษตรอินทรีย์เป็นหลักในอนาคต

ทั้งนี้ยอมรับว่าการรับรองหรือขึ้นทะเบียนสารชีวภัณฑ์กำจัดวัชพืช ยังมีความล่าช้า เนื่องจากต้องมีการดำเนินการตามหลักเกณฑ์อย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อพืชประธาน หรือพืชหลักที่ปลูกในอนาคต และให้ได้สารที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ แต่ก็จะเร่งดำเนินการเพื่อเป็นทางเลือกให้กับเกษตรกร

และเพื่อให้มีการทำอย่างรวดเร็วมากขึ้น ในวันนี้คณะทำงานมีมติได้ตั้งคณะทำงานชุดย่อย เดินหน้าหาสารชีวภัณฑ์กำจัดวัชพืชเพื่อเป็นทางเลือกทดแทนช่วยเหลือเกษตรกร ส่วนภาพรวมมาตรการช่วยเหลือหลังยกเลิก 3 สาร จะมีข้อสรุปในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ก่อนที่จะมีการยกเลิกการใช้สารเคมี 3 ชนิด ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้

“คณะทำงานมีมติตั้งคณะทำงานชุดเล็ก ประกอบด้วย กรมวิชาการเกษตร สกว. พด. กนท. ดำเนินการในการทดสอบหาสารชีวภัณฑ์ที่มีคุณภาพปลอดภัยเป็นทางเลือกให้กับเกษตรกร ซึ่งล่าสุดกรมพัฒนาที่ดิน ก็มีความคืบหน้า ทำวิจัยจุลินทรีย์ 2-3 ตัวในการกำจัดวัชพืช ก็มาดูกันว่าจะทำยังไงให้ขยับได้เร็วขึ้น” นายอนันต์ กล่าว

ส่วนกรณีที่ดีเอสไอตรวจจับการหลอกลวงขายสารกำจัดวัชพืชที่อ้างว่าเป็นสารอินทรีย์ชีวภาพ ทั้งนี้จะเดินหน้า เพื่อปลดล๊อค รับรองสารชีวภัณฑ์เกิดปัญหา เพราะเป็นคนละส่วนกัน การหลอกลวงแอบอ้างก็จะถูกจัดการตามกฎหมาย ซึ่งกรมวิชาการเกษตร ได้วางมาตรการเพื่อควบคุมดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว