“อธิบดีกรมชลฯ” เผยพายุโพดุล เข้าไทยแล้วอ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชัน ยังส่งผลฝนหนักทั่วทุกภาค สั่งเกาะติดทุกพื้นที่ลดความเสียหายต่อประชาชน เกษตรกร
ส่วนภาคอีสานน้ำล้นตลิ่งลำน้ำยัง จ.กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ติดเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำ ช่วยย่านชุมชน นาข้าวกว่า6พันไร่
เมื่อวันที่ 30 ส.ค.62 นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าพายุโพดุล ได้เคลื่อนขึ้นตัวเข้าสู่บริเวณ อ.เมือง จ.นครพนม ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันบริเวณ จ.สกลนคร ซึ่งยังทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จึงได้สั่งการไปยังโครงการชลประทานทุกแห่งทั่วประเทศ ให้สำรวจและคาดการณ์พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ ทั้งกำหนดผู้รับผิดชอบประจำในพื้นที่ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม รวมถึงเตรียมเครื่องสูบน้ำ เครื่องจักรกล รถขุด รถบรรทุก เป็นต้น ประจำทุกพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม โดยให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน ติดตามปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำต่างๆ อย่างใกล้ชิด หากจำเป็นต้องระบายน้ำ ขอให้ประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อลดความเสียหายต่อประชาชนให้มากที่สุด ทั้งพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมที่เป็นเขตชุมชนเมือง เขตเศรษฐกิจ และพื้นที่การเกษตร
ด้านนายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 ติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำ ยังซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำชีที่อำเภอเสลภูมิและโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ว่ามีฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนโพดุล ระดับน้ำในลำน้ำยังซึ่งไหลมาจาก จ.กาฬสินธุ์ มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วงเย็นนี้ล้นตลิ่งบริเวณที่ไม่มีพนังกั้นน้ำเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ จึงได้เตรียมเครื่องสูบน้ำไว้ประจำทุกจุดเสี่ยงแล้วเพื่อเร่งสูบน้ำออก ไม่ให้นาข้าวของเกษตรกรเสียหาย
สำหรับ จ.กาฬสินธุ์ มีพื้นที่น้ำท่วมในอำเภอเขาวงและนาคประมาณ 320 ไร่ ส่วนที่ จ.ร้อยเอ็ด มีพื้นที่น้ำท่วมด้านฝั่งซ้ายของลำน้ำยังที่ความสูงประมาณ 1.74 เมตร ในอำเภอเสลภูมิและโพนทองประมาณ 6,300 ไร่ โดยพายุโพดุลซึ่งส่งผลให้ฝนตกหนักทำให้พื้นที่น้ำท่วมขยายวงกว้างจึงได้ระดมเครื่องจักรเครื่องมือเช่น รถแบคโฮ รถบรรทุกเทท้าย รถขุดบูมยาว รถขุดสแตนดาร์ด เครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ กระสอบทราย และถุง Big Bag จำนวน 1,500 ใบ เข็มไม้ยูคาลิปตัส และเสาเข็มพืดเหล็ก (sheet piles) กว่า 300 ต้น เพื่อเสริมความมั่นคงแข็งแรงของพนังกั้นน้ำยัง ด้านสำนักสำรวจด้านวิศวกรรมและธรณีวิทยา สนับสนุนเครื่องมือสำรวจทางธรณีเพื่อสำรวจหาจุดรั่วซึมของพนังกั้นน้ำยัง สำนักเครื่องจักรกล เข้าดำเนินการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่องบริเวณสะพานข้ามลำน้ำยังบ้านกุดเรือตำบลนางาม อำเภอเสลภูมิ นอกจากนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันประจำจุดเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อติดตามสภาพน้ำและตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของคันกั้นน้ำยังตลอดความยาว ด้านการบริหารจัดการน้ำได้เพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนยโสธร เร่งระบายน้ำแม่น้ำชีให้มีระดับต่ำลง พร้อมเปิดประตูระบายน้ำบุ่งเป้าและประตูระบายน้ำบ้านปากบริเวณพนังกั้นน้ำยังฝั่งขวาและระบายผ่านห้วยวังหลวงลงบึงเกลือเพื่อตัดยอดน้ำลงแม่น้ำชี ส่วนที่จังหวัดขอนแก่น สำนักงานชลประทานเตรียมรับมือพายุโซนร้อนโพดุล (PODUL) สั่งการให้เร่งพร่องน้ำในอ่างฯ ที่มีปริมาณมากให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมระดับน้ำสูงสุด (UPPER RULE CURVE) เพื่อรองรับปริมาณฝนที่จะตกลงมาในช่วงนี้
สถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ 3 แห่งได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีปริมาณน้ำปัจจุบัน 539.95 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 22.21% เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีปริมาณน้ำปัจจุบัน 750.70 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ มีปริมาณน้ำปัจจุบัน 42.21 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 25.78% โดยทั้ง3เขื่อนยังรับน้ำได้อีกรวม 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล
“พื้นที่ลุ่มน้ำยังได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อนโพดุล ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักระดับน้ำในลำน้ำยังเริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง โครงการชลประทานทั้ง 12 แห่งในเขตความรับผิดชอบของสำนักงานชลประทานที่ 6 ทั้ง 5 จังหวัดคือ ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ดจึงได้เร่งระดมกระสอบทรายกว่า 6,000 ใบเข้าไปเสริมความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำ ป้องกันพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจ ส่วนพื้นที่เกษตรที่มีน้ำท่วมขณะนี้กำลังเร่งระบายออกเพื่อไม่ให้นาข้าวเสียหาย” นายศักดิ์ศิริ กล่าว
