ผุด มนัญญาโมเดล ดันสหกรณ์ซุปเปอร์มาเก็ตทั่วประเทศ เตรียมเปิดตัวแห่งแรกจ.นครปฐม เร็วๆนี้

“ผุด มนัญญาโมเดล ดันสหกรณ์ซุปเปอร์มาเก็ตทั่วประเทศ เตรียมเปิดตัวแห่งแรกจ.นครปฐม เร็วๆนี้ พร้อมจับมือ รมช.ประภัตร ผลักดันโคเนื้อสร้างชาติ ส่งเสริมเกษตรกรไทยเลี้ยงครัวเรือนละ5ตัว

ส่งขายจีนให้โควต้าไทยเดือนละ5หมื่นตัว รับซื้อโคมีชีวิตกก.ละ10บาท หนุนไทยยกระดับฮับโคขุน เชื่อมCLMVT”

เมื่อวันที่ 21ส.ค.62 น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในงานแถลงข่าวมหกรรมสินค้าสหกรณ์ เฟส ฟรอม์ ฟาร์ม ที่นำสินค้าคุณภาพ กลุ่มเนื้อ นม ไข่ ผักผลไม้ พรีเมี่ยม บายโคออฟ มาจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯและเตรียมจัดไปจัดงานในอีก15 จังหวัดทั่วประเทศ ว่าการนำสินค้าจากสหกรณ์ซึ่งผลิตของดีจากทั่วประเทศ มาจัดงานเพื่อต้องการให้คนไทยรู้ว่าสหกรณ์การเกษตรของไทย มีสินค้ามีคุณภาพดี มีความสดใหม่ และรายได้จากการจำหน่าย นำไปสู่สมาชิกสหกรณ์ ตามนโยบายของรัฐบาล และพรรคภูมิใจไทย ในเรื่องหลักการแบ่งปันกำไรให้กับชุมชน ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ คือการผลักดันให้เกิดซุปเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ในทุกจังหวัด เพื่อเป็นศูนย์รวบรวมผลผลิตสหกรณ์ที่มีคุณภาพให้ประชาชนในพื้นที่ได้ซื้อของดี ราคาเป็นธรรมอย่างทั่วถึง

“จะนำร่องจังหวัดนครปฐม ซึ่งมีความพร้อมทั้งสถานที่และสมาชิกสหกรณ์ ความหลากหลายสินค้า นม เนื้อ ผัก ผลไม้ สินค้าแปรรูปต่างๆ จะเปิดให้เร็วที่สุด โดยสหกรณ์ซุปเปอร์มาเก็ตนี้จะเป็น “มนัญญาโมเดล”ในการนำสินค้าสหกรณ์ให้เข้าถึงผู้บริโภคทุกพื้นที่ และต่อไปจะกระจายไปเปิดทุกจังหวัด ดิฉันเกิดไอเดียในวันนี้ เพราะเห็นว่าสินค้าสหกรณ์มีความหลากหลาย สามารถสร้างรูปแบบการขายที่สร้างโอกาส สร้างรายได้ ให้กับสหกณ์ และกลับคืนสู่สมาชิกเกษตรกรได้มากขึ้น ในสินค้าอุปโภค บริโภคที่เป็นสินค้าหลักในชีวิตประจำวัน เช่น กาแฟ เนื้อ ข้าวสาร โดยเฉพาะเนื้อโคของไทย ในฐานนะที่ดิฉัน ทานเนื้อตั้งแต่เกิด ไปทานมาหลายประเทศทั่วโลก ขอการันตีว่าเนื้อโคของไทย อร่อยที่สุด แม้ว่าประเทศไหนที่ว่าอร่อย แต่พอไปลองทาน ก็ได้สรุปว่าสู้เนื้อโคบ้านเราไม่ได้ ดังนั้นจะพยายามส่งเสริมโรงแปรสภาพเนื้อสัตว์ของไทย ให้ได้รับการรับรองเครื่องหมายฮาลาลโลก เพื่อสามารถส่งออกไปขายทั่วโลก รวมทั้งข้าวสารสหกรณ์ ที่เป็นสินค้ามีคุณภาพดีเยี่ยม จากนี้จะพัฒนาสหกรณ์เป็นแหล่งผลิต พันธุ์ข้าวปลูกคุณภาพดีของประเทศไทย” น.ส.มนัญญา กล่าว

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่ากรมได้สนับสนุนงบไทยนิยม ยั่งยืน ให้กับสหกรณ์ในการพัฒนาเครื่องมือเครื่องจักรเพื่อแปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร พืชเศรษฐกิจ วงเงิน1.7พันล้านบาท ของงบกลางปี62 ซึ่งสินค้านำมาแสดงในงาน มาจากสหกรณ์ได้รับงบสนับสนุนดังกล่าว ซึ่งเหตุที่จำเป็นต้องมีการพัฒนาสนับสนุนสหกรณ์ในการสร้างรายได้ ให้ครัวเรือน เพราะเป็นคนจำนวนมากของประเทศ มีสมาชิก11ล้านคน มีมูลค่าทางธุรกิจสูงถึง 3.3ล้านล้านบาท หากนับจำนวจสมาชิกครอบครัว เท่ากับเกือบครึ่งของประเทศ กว่า30ล้านคน จึงจำเป็นที่ต้องทำให้สหกรณ์มีรายได้ เป็นเรื่องสำคัญ และส่งเสริมให้สหกรณ์มีความเข้มแข็ง การบริหารงานโปร่งใส มีธรรมาภิบาล

นายสิทธิพร บุรณนัฎ ผู้จัดการสหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อกำแพงแสน จ.นครปฐม กล่าวว่าเห็นด้วยกับนโยบาย กับ น.ส.มนัญญา ที่จะผลักดันให้เนื้อโคไทยทั้งระบบ ได้มาตรฐานฮาลาลโลก เพราะปัจจุบันได้มาตรฐานฮาลาลไทย กับฮาลาลมาเลเซีย ยังมีข้อจำกัดในเรื่องการบุกตลาดโลก ซึ่งเนื้อโคไทย มีรสชาดที่ดีกว่าเนื้อต่างประเทศที่มีการนำเข้าขณะนี้ เพราะคนไทยติดแบรนด์ต่างประเทศ ซึ่งจริงๆแล้วเนื้อโคขุนของไทยดีที่สุดในโลก ดังนั้นสนับสนุนให้ น.ส.มนัญญา กับ นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯ ร่วมกันผลักดันให้เกิดคัสเตอร์เนื้อ CLMVT ( กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม ไทย )โดยให้ไทยเป็นฮับหรือศูนย์กลางในการพัฒนาโคขุน ซึ่งสหกรณ์โคเนื้อของไทยมีความชำนาญการเลี้ยงให้ได้เนื้อที่ดีมากที่สุด จะสามารถเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน ร่วมกลุ่มเป็นฐานผลิตโคมีชีวิต ส่งไปจีน ที่ปัจจุบันยังไม่เพียงพอและมีความต้องการนำเข้าจำนวนมาก หากจีนมาจับคู่การค้าโคเนื้อมีชีวิตกับไทย ให้โควต้าวันละ2พันตัว ป้อนโรงงานแปรสภาพของจีน มาตั้งที่ชายแดนลาว จีน ที่ต้องการ5แสนตัวต่อปี หรือ วันละ1,380ตัว ซึ่งเมื่อโรงงานเปิดภายในสิ้นปีนี้ คัสเตอร์นี้จะป้อนผลผลิตให้ได้ต่อเนื่อง

“ขณะนี้ นายประภัตร กำลังให้กรมปศุสัตว์ ทำโครงการโคเนื้อสร้างชาติ ส่งเสริมเกษตรกรเลี้ยงครัวเรือนละ5 ตัว ส่งขายจีน เริ่มต้น5หมื่นตัวต่อเดือน โดยนายประภัตร ให้ไปต่อยอดโครงการโคเนื้อสร้างอาชีพ ซึ่งกรมทำเฟส2 เพิ่งเสร็จ มาขยายต่อเฟส3มาเข้าโครงการ จะสร้างรายได้ที่ดีให้เกษตรกรไทย เพราะรับซื้อกิโลกรัมละ100บาท จากปัจจุบันราคารับซื้อโคมีชีวิต 80บาท” นายสิทธิพร กล่าว