“กษ.เดินหน้าเยียวยาเกษตรกร ประสบภัยแล้ง ระบุเงินถึงมือชาวนาชาวไร่ภายใน15วัน รายละไม่เกิน30ไร่”

“กษ.เดินหน้าเยียวยาเกษตรกร ประสบภัยแล้ง

ระบุเงินถึงมือชาวนาชาวไร่ภายใน15วัน รายละไม่เกิน30ไร่”

เมื่อวันที่ 13 ส.ค.62  นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงและจากมติที่ประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับการกำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ป้องกันความเสียหายจากปัญหาขาดแคลนน้ำที่จะเกิดขึ้น กรมสั่งการให้สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร สำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอ ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมทำความเข้าใจกับเกษตรกรให้ทราบปริมาณสถานการณ์น้ำ โดยเร่งสำรวจข้อมูลพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง พร้อมตั้งศูนย์เฉพาะกิจ (War Room) จังหวัด ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ และวางแผนช่วยเหลือเกษตรกร รวมถึงประสานแก้ปัญหาน้ำเพื่อการเกษตรให้เกษตรกร ผ่านกลไกของคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและแก้ปัญหาภาคเกษตรระดับจังหวัด (Chief of Operation : CoO) และคณะทำงานปฏิบัติการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับอำเภอ (Operation Team : OT) พร้อมวางแผนช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง และเตรียมแผนระบบการปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาวะแต่ละพื้นที่ โดยแนะนำวิธีการดูแลรักษาพืชในภาวะแห้งแล้งฝนทิ้งช่วงประกอบกับแนะนำให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อยทดแทนการเพาะปลูกข้าวในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2562

นอกจากนี้ กรมยังแจ้งเตือนเกษตรกรที่เพาะปลูกพืช ให้มาปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร หรือหากเป็นเกษตรกรรายใหม่ให้มาขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ปลูก หรือศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) หรือสถานที่อื่นที่เหมาะสมด่วนที่สุด อย่างไรก็ตาม เกษตรกรรายเดิมสามารถปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ด้วยตนเองผ่านแอพพลิเคชั่น Farmbook ส่วนการจัดทำข้อมูลสถานการณ์เนื้อที่เพาะปลูกและเนื้อที่เสียหายผ่านระบบสารสนเทศการผลิตด้านการเกษตร (รต.) ได้เร่งรัดให้จัดส่งกรมส่งเสริมการเกษตรทราบ และปรับปรุงข้อมูลทุกวันอังคารของสัปดาห์

ในกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ให้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2561 โดยเร็ว และกรอบระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือ (เร่งด่วน) ที่กรมส่งเสริมการเกษตรกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันต่อไป ทั้งนี้ การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ มีหลักเกณฑ์คือ ต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร ก่อนเกิดภัย และช่วยเกษตรกรตามจำนวนพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจริง ทั้งนี้ ไม่เกิน 30 ไร่ อัตราการช่วยเหลือด้านพืช แบ่งเป็น ข้าว อัตราไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ อัตราไร่ละ 1,148 บาท พืชสวนและอื่นๆอัตราไร่ละ 1,690 บาท