มกอช.ปั้นเกษตรกรรุ่นใหม่เป็นพ่อค้า-แม่ค้าตลาดออนไลน์มืออาชีพ

มกอช.ปั้นเกษตรกรรุ่นใหม่เป็นพ่อค้า-แม่ค้าตลาดออนไลน์มืออาชีพ

 

มกอช.ฟิตจัด  ขานรับนโยบายขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์-GAP   เร่งอบรมเทคนิคการทำตลาดออนไลน์ผ่านDGTFarm.com และการจับคู่ธุรกิจแก่เกษตรรุ่นใหม่ทั่วประเทศ หวังปั้นเป็นพ่อค้า-แม่ค้าตลาดดิจิทัลมืออาชีพ เพื่อเพิ่มช่องการซื้อ-ขายของเกษตรและยกระดับตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัยของไทยให้เป็นที่ยอมรับของตลาดภายในและต่างประเทศ

นางสาวจูอะดี  พงศ์มณีรัตน์  เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวว่า เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ชาติ20ปี(พ.ศ.2561–2580)และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่12 ได้วางเป้าหมายให้ให้มีการขับเคลื่อนการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์และสินค้าเกษตรปลอดภัยอย่างจริงจัง ตลอดจนสร้างความสามารถในการแข่งขัน การเพิ่มผลิตภาพการผลิตทั้งเชิงปริมาณเพื่อสร้างมูลค่าหนึ่งในเป้าหมายที่จะทำให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคทั่วโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของมาตรฐานระบบการจัดการความปลอดภัยของอาหารจูงใจและวางกรอบให้เกษตรกรและผู้ผลิตทำการผลิตสินค้าที่สอดคล้องกับมาตรฐานประกอบกับกระแสความใส่ใจในสุขภาพกำลังเป็นทิศทางใหม่ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน   

ดังนั้น มกอช.จึงได้จัดทำโครงการการเสริมสร้างองค์ความรู้และขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืนขึ้น เพื่อมุ่งสร้างเกษตรกรผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์รายใหม่และส่งเสริมให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มเพื่อผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ตอบสนองความต้องการของตลาด ตลอดจนสร้างโอกาสในการแข่งขันด้านเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่12 โดยการอบรมจะเน้นกิจกรรมส่งเสริมช่องทางการตลาด2. ช่องทางหลักคือ การส่งเสริมช่องทางการตลาดด้วยระบบดิจิทัล เช่น เว็บไซด์DGTFarm.com,QR Tracecและการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching)เกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ พร้อมจัดนิทรรศการนำเสนอผลผลิตของเกษตรกรผู้ผลิตเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ที่ประสบความสำเร็จ นวัตกรรม การเกษตรสมัยใหม่ รวมทั้งช่องทางการจำหน่ายผลผลิตเกษตรอินทรีย์รูปแบบใหม่ โดยปี2562 นี้วางเป้าหมายอบรมเกษตรรุ่นใหม่ (Yong Smart Farmer)และเกษตรกรเกษตรอินทรีย์ที่สนใจทำเกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศจำนวน189 คน 

 นางสาวจูอะดี กล่าวย้ำด้วยว่า มกอช.มั่นใจว่าโครงการดังกล่าวจะผลักดันให้ประเทศไทยมีพื้นที่และปริมาณการผลิตเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ข้อมูลจากกรมการค้าภายในระบุปัจจุบันมีเกษตรกร/กลุ่มเกษตรผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แล้ว จำนวน40,774 ราย 119 กลุ่ม รวมพื้นที่521,826.56 ไร่  นอกจากนี้ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลการตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ กระทรวงพาณิชย์ยังระบุด้วยว่า ปัจจุบันตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยมีมูลค่ากว่า3,000ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดภายในประเทศ900 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตประมาณ 10% ต่อปี และตลาดต่างประเทศ2,100 ล้านบาท ในขณะที่มูลค่าการส่งออกคิดเป็น0.06% ของมูลค่าตลาดโลก ในขณะที่ตลาดเกษตรอินทรีย์ทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง104,000 ล้านเหรียญสหรัฐหรือราว3.55 ล้านล้านบาท มีอัตราการขยายตัวปีละ20% โดยมีตลาดเกษตรอินทรีย์ที่สำคัญของโลก ได้แก่ สหรัฐฯ แคนาดา ยุโรป จีน ออสเตรเลีย ซึ่งเห็นได้ว่าตลาดเกษตรอินทรีย์ยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก

            

นางสาวจูอะดี   กล่าวด้วยว่า      จากความเติบโตของตลาดสินค้าอาหารปลอดภัยเพื่อสุขภาพในปัจจุบัน พบว่ารูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนสมัยใหม่ที่หันมาให้ความสำคัญกับอาหารการกิน จึงเกิดเป็นโอกาสของธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ยังคงนับว่าเป็นกลุ่มสินค้าเฉพาะกลุ่มที่มีศักยภาพแข็งแกร่งและมีอัตราการขยายตัวของตลาดสูงทำให้มีการขยายตัวของพื้นที่การผลิตเกษตรอินทรีย์โลกที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในรูปแบบการพัฒนาการเกษตรกรรมแบบยั่งยืน ที่เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการประกอบอาชีพของเกษตรกร ที่สามารถผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น 

   อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับกระแสของกลุ่มผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น ประกอบกับต้องการยกระดับตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัยของไทยทั้งสินค้าออร์แกนิคและสินค้าGAPให้เป็นที่ยอมรับทั้งตลาดภายในและต่างประเทศให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น มกอช.ได้เร่งส่งเสริมอบรมระบบการขายผ่านเว็บไซด์DGTFarm.com เพื่อเปิดมิติใหม่สินค้าเกษตรไทยบนโลกออนไลน์ โดยในเว็บไซต์ดังกล่าว จะแบ่งตลาดจำหน่ายสินค้าเกษตรเป็น3 ตลาด ดังนี้  

  1. ตลาดเกษตรอินทรีย์ สินค้าเกษตรที่มีขั้นตอนการผลิตตามหลักธรรมชาติบนพื้นที่เกษตรที่ไม่มีสารพิษและสารเคมีปนเปื้อน ประกอบด้วย ผัก ผลไม้ ข้าวและ สินค้าแปรรูป
  2. ตลาดเกษตรปลอดภัย GAP สินค้าเกษตรที่ปลอดภัยจากสารพิษหรือสารเคมี หรือมาจากแหล่งผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐานGAPนอกจากผัก ผลไม้ สินค้าแปรรูป ไข่และข้าว ประมง ปศุสัตว์แล้วยังมีสินเครื่องสำอางสบู่กล้วยหอมซึ่งเป็นสินค้าเก๋ๆของเกษตรกรจากจังหวัดกำแพงเพชรจำหน่ายอีกด้วย
  3. ลาดสินค้าQR Traceสินค้าเกษตรที่สามารถตามสอบแหล่งที่มาได้จาก QR Code ที่ติดมาบนตัวสินค้า   นอกจากผัก ผลไม้ สินค้าแปรรูป ไข่และข้าวแล้วยังมีเครื่องสำอางอินทิราHerbal Soapคลีนซิ่งโฟมสับปะรดผสมมะเฟืองของเกษตรกรบ้านคา จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นสินค้าที่กำลังได้รับความนิยมอีกด้วย     

ทั้งนี้  มกอช.มั่นใจว่าจะทำเกษตรกรให้มีช่องทางและโอกาสทางการค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า สินค้าเกษตรที่นำมาจำหน่ายในตลาดออนไลน์นี้ล้วนเป็นสินค้าคุณภาพมาตรฐาน ปัจจุบันมีผู้ที่ทำเกษตรอินทรีย์และGAPเป็นสมาชิกในระบบแล้วกว่า1,600ราย