รองแม่ทัพภาค4นำเครือญาติมวลชนรับวีระบุรุษ พ่อวีระบุรุษเตือนเหล่านักรบ อย่าประมาณบุกยึดพื้นที่ได้ควรหามาตรการป้องกัน เขมรเคยอยู่ก่อนถึงแพ้รู้พิกัดสามารถใช้อาวุธหนักทวงเอาชีวิตนักรบ

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 14 ธ.ค.68 คณะของผู้บังคับบัญชา ภายใต้การนำของ พล.ต.ชาคริต อุจะรัตน รองแม่ทัพภาค 4 พ.อ.ทวีรัตน์ เบญจาธิกุล รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส พ.ออรุณ แก้วเศษ รอง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข พล.ต.ต.ประยงคต์ โคตรสาขา ผบก.ภ.จว.นราธิวาส และนายพิชิต รุ่งประเสริฐ นายอำเภอจะแนะ ได้ร่วมกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านสุแฆ ม.3 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ ได้ยืนของ 2 ถนนพร้อมกับได้โบกธงชาติไทย ต้อนรับร่างไร้วิญญาณของ พลอาสาสุตากีม มาเจ๊ะมะ พลยิงอาวุธต่อสู้รถถัง กองพันจู่โจม ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่สู้รบกับกัมพูชา ณ พื้นที่ซำแต บริเวณเนิน 677 ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 13 ธ..ค.68 ที่ผ่านมา ที่ทางกรมทหารราบที่ 151 ค่ายกัลยาณิวัฒนา ได้นำเลียงศพด้วยรถยนต์บรรทุกหุ้มเกราะ 4 ล้อ FTH มาจากท่าอากาศยานนราธิวาส เพื่อมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดเลขที่ 9/1 ม.3 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ซึ่งขบวนของวีระบุรุษมี ส.อ.พาอีซะห์ เจ๊ะแว มารดาเป็นผู้นำขบวน โดยมีเครือญาติถือรูปถ่ายของ พลอาสาสุตากีม

ซึ่งพิธีตายามุม แทนการอาบน้ำศพ ได้มีนายแวดือราแม มะมิงจิ เป็นประธานผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธี ที่ได้กระทำอย่างสมเกียรติเยี่ยงวีระบุรุษ ที่ปกป้องประเทศชาติ ก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายศพของ พลอาสาสุตากีม ไปประกอบพิธีละมาดที่มัสยิดและได้นำไปฝังที่กูโบร์สุแฆ

ด้าน นายพายัพ มาเจ๊ะมะ บิดาของพลอาสาสุตากีม และเป็นอดีตทหารพราน กรมทหารพรานที่ 41 กล่าวว่า ผมติดต่อกับลูกชายตลอดแกเป็นเด็กที่ ขอพรจากพ่อตลอดก่อนที่จะเข้าสมรภูมิ ก็บอกพ่อว่าลูกจะเข้าไปแล้วนะ ไปแล้วอาจจะใช้โทรศัพท์ไม่ได้ ก็จะเตือนลูกตลอดว่าอย่า ทำตัวเหมือน ประเทศเพื่อนบ้าน ว่าอย่าไปไลฟ์สดในเวลาทำการ ลูกก็บอกว่าไม่ทำอยู่แล้วเพราะว่าหน่วยเขา เขาเคร่งครัด มือกล้องที่เก็บภาพก็มีประจำหลักอยู่แล้ว แกว่าถ้าสามารถใช้โทรศัพท์ แกจะติดต่อกลับหาพ่อทันที ตอนเย็นวันศุกร์วันที่ 12 ธันวาคม 2568 แกก็โทรมาประมาณ 5 โมงครึ่ง โทรมาบอกข่าวดีว่าพ่อเราชนะแล้ว เรายึดเนิน 677 ได้แล้ว พ่อก็เลยบอกว่าโอเคเรายึดได้ก็อย่าประมาทนะเพราะว่าจุดที่เรายึดได้เป็นจุดที่ประเทศเพื่อนบ้านเคยครอบครองมาก่อน เขารู้พิกัด เท่าไหร่เขาสามารถที่จะโจมตีเราได้ตลอด แต่ก็ ไม่สามารถ คุยยาวได้เนื่องจากว่า ทางลูกชายไม่มีสัญญาณแกก็เลยตัดบท พ่อไม่ได้ยินเดี๋ยวลูกค่อยโทรกลับพรุ่งนี้

“ ผมขออย่างเดียวเป็นทหารชายชาตินักรบเรารบไม่ขลาด ก็ขออย่างเดียวขออย่าประมาทอย่างที่ผมเตือนลูกผม อยากจะเตือน น้องๆทหารที่ปฎิบัติหน้าที่ จริงแล้วข้อคิดจะอธิบาย ถ้าลูกชายวันที่เขายึดได้นั้น แต่ว่าไม่สามารถที่จะสื่อสารกันได้เนื่องจากสัญญาณไม่มี เดี๋ยวจะเตือนว่าเราอย่าประมาทเพราะเราไปอยู่ในที่มีพิกัด เพราะว่าเขาสามารถที่จะหย่อนลงมาตอนไหนก็ได้เพราะว่าเขาแพ้แต่ตัว อาวุธเจาจะส่งมาพิกัดนั้นตลอดเวลา ไม่สามารถที่จะอธิบายให้เขาฟังได้ก็อยากจะให้ถือว่าเป็นบทเรียน อีกรูปแบบหนึ่งที่มาปฏิบัติในอนาคต “ นายพายัพ มาเจ๊ะมะ กล่าว