นักท่องเที่ยวนานาชาติได้เดินทางมาร่วมงานเทศกาลคติชนวิทยาพุทธศาสนานานาชาติครั้งที่ 37 ประจำปีพ.ศ 2568 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นักท่องเที่ยวนานาชาติได้เดินทางมาร่วมงานเทศกาลคติชนวิทยาพุทธศาสนานานาชาติครั้งที่ 37 ประจำปีพ.ศ 2568 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 68 ที่วัดนาโนน ตำบลหนองไฮ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ นายพิศิน ทาศิริ นายอำเภออุทุมพรพิสัย เป็นประธานเปิดงานเทศกาลคติชนวิทยาพระพุทธศาสนานานาชาติ ครั้งที่ 37 โดยงานเทศกาลดังกล่าวเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อเป็นแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ สร้างความเชื่อมั่นหลังจากที่สงครามสงบ ผ่านการละเล่นหรือนิทาน และสร้าง ความบันเทิง หรือถ่ายทอดผ่านศิลปวัฒนธรรรม บทเพลง และการแสดง โดยมี พระวชิรสิทธิธาดา เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการ ชาวต่างประเทศจากนานประเทศ รวม 9 ประเทศ ได้แก่ ประเทศบังกลาเทศ, อินโดนีเซีย, สปป.ลาว, เมียนมาร์, เนปาล, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, ศรีลังกา และประเทศไทย ร่วมเป็นเกียรติในพิธี

ทั้งนี้คำว่า คติชนวิทยา ถือว่ามีความสำคัญในการศึกษา วิถีชีวิต ความเชื่อ และของกลุ่มคนในสังคมไทยหรือนานาชาติ ทำให้เราเข้าใจและเห็นคุณค่าของ ภูมิปัญญาดั้งเดิม ของบรรพบุรุษช่วยอบรมสั่งสอน และสร้าง คุณธรรมจริยธรรม ให้กับคนในสังคม นอกจากนี้ยังให้ความรู้ ฝึกผ่านการละเล่นหรือนิทาน และการสร้าง การแสดง ความบันเทิง หรือถ่ายทอดผ่านศิลปวัฒนธรรรม บทเพลง ซึ่งสามารถคลายความเครียดได้

โดยกิจกรรมภายในงานมีการแสดงแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ที่ไม่ค่อยได้เห็นกัน ผ่านการแสดง และเสียงเพลง จาก 9 ประเทศ ได้แก่ ประเทศบังกลาเทศ, อินโดนีเซีย, สปป.ลาว, เมียนมาร์, เนปาล, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, ศรีลังกา และประเทศไทย อาทิ การเล่นดนตรี เต้นรำ ของชาว โปแลนด์, การเต้นรำ ของชาวฟิลิปปินส์, การร้องเพลวจาก สปป.ลาว, การแสดงวิธีแกลมอ ของชนเผ่าส่วย (ประเทศไทย) และการแสดงประเพณีการเลี้ยงปู่ตา ของชนเผ่าส่วย (ประเทศไทย)

นอกจากนี้ยังมีการแสดงปฐกถาจาก พระวชิรสิทธิธาดา เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ในหัวข้อ “บทบาทของวัดในฐานะศูนย์กลางการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น การใช้ธรรมและสมาธิเพื่อสร้างสันติสุข” การสอนชาวนานๆชาติตั้งสติและนั่งสมาธิ การนำชาวนานาชาติร่วมขึ้นเกวียนแห่กองยาวชมความงามรอบพระธาตุหนุนดวง ของวัดนาโนน ซึ่งความสนุกสนานให้กับชาวต่างชาติ และผู้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นอย่างดี หลังจากที่ก่อนหน้านี้เกิดภัยสงครามระหว่างไทยกัมพูชาทำให้นานาชาติไม่กล้าเข้ามาเที่ยวในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากที่สงครามได้สงบทำให้นานาชาติมีความเชื่อมั่นและหันเข้ามาเที่ยวและทำกิจกรรมในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์