คืนสู่อิสรภาพเรือนจำฐานทัพเรือสัตหีบปล่อยตัวผู้ต้องขังในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ร.10

คืนสู่อิสรภาพเรือนจำฐานทัพเรือสัตหีบปล่อยตัวผู้ต้องขังในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ร.10

วันนี้ 15 พ.ค.62 พลเรือโท ชุมศักดิ์ นาควิจิตร ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ มาเป็นประธานในพิธีปล่อยตัวผู้ต้องขัง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10 ได้ทรงกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดี ให้ได้รับการปล่อยตัว ณ เรือนจำฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี นาวาตรี สำราญ คล้ายสุด ผู้บังคับเรือนจำฐานทัพเรือสัตหีบ คณะนายทหาร ข้าราชการและญาติ ตลอดจนผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัวจำนวน 23 คน ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มใจอย่างหาที่สุดมิได้

นาวาตรี สำราญ คล้ายสุด กล่าวว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10 ได้ทรงกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องขังที่มีความประพฤติให้ได้รับการปล่อยตัวและลดหย่อนผ่อนโทษเพื่อเปิดโอกาสให้คนเหล่านี้ได้กลับตัวเป็นพลเมืองดีอันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไปนั้น สำหรับการปล่อยตัวผู้ต้องขังในวันนี้เป็นการปล่อยตัวนักโทศเด็ดขาดที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2562ตามมาตรา5และมาตรา6ในส่วนของเรือนจำฐานทัพเรือสัตหีบมันักโทษที่ได้รับการลดหย่อนโทษและปล่อยตัวทันทีรวม57นาย โดยแบ่งเป็นผู้ได้รับการลดหย่อนจำนวน 34 นาย และได้รับการปล่อยตัวทันที 23 นาย ทั้งนี้เรือนจำฐานทัพเรือสัตหีบได้จัดให้มีการอบรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด เช่น การพัฒนาด้านร่างกายและจิตใจ การฝึกอาชีพ การใช้ชีวิตในสังคมและการปลูกจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษไม่หวนไปกระทำผิดซ้ำอีก

พลเรือโท ชุมศักดิ์ นาควิจิตร กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10 ที่ทรงกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดี ให้ได้รับการปล่อยตัวและยดหย่อนผ่อนโทษ เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านั้นได้กลับตัวเป็นคนดีอันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป และให้ปฏิบัติตนเป็นคนดีของบิดามารดา ครอบครัวและประเทศชาติ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่หวนกลับไปทำในสิ่งที่ผิดซ้ำอีก

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณภาพ-ข่าว นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี